พี่มอสเป็นคนขับรถบัสที่ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ เพราะต้องขับรถพาผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางทุกวัน งานของเขาทำให้เวลาส่วนตัวน้อยลง แต่เขาก็รักงานนี้ เพราะมันทำให้เขาได้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ
น้องแก้ม เด็กรถสาวแสนสวย เป็นผู้ช่วยที่ทำงานอยู่กับพี่มอส ทั้งสองคนทำงานด้วยกันมานานหลายเดือน แก้มเป็นคนร่าเริงและขยันทำงาน ทุกครั้งที่พี่มอสขับรถ แก้มจะคอยจัดการเรื่องการเก็บค่าโดยสาร และทำความสะอาดเบาะนั่งในรถเสมอ เธอเห็นพี่มอสทำงานหนักทุกวัน เธอจึงเริ่มรู้สึกชื่นชมและประทับใจในความขยันและความเป็นคนดีของเขา
วันหนึ่ง หลังจากที่รถบัสวิ่งจนเสร็จงาน แก้มตัดสินใจจะทำความสะอาดเบาะนั่งให้พี่มอสที่ห้องพักคนขับเพราะเห็นว่าเขาดูเหนื่อยมาก แก้มเปิดประตูห้องคนขับเข้าไป และกวาดตามองไปทั่ว เห็นสิ่งของที่กระจัดกระจายทั่วไป แต่อยู่ๆ เธอก็สังเกตเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ของพี่มอสที่ยังเปิดอยู่ และทันทีที่เธอเหลือบไปดู เธอพบว่าหน้าจอเปิดหนังโป๊ทิ้งไว้อยู่!
แก้มตาโตและหัวเราะออกมาเบาๆ พี่มอสที่กำลังเดินมาทางห้องพักได้ยินเสียงหัวเราะของแก้ม ก็รีบวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทันทีที่เขาเห็นว่าแก้มกำลังมองไปที่หน้าจอ เขาหน้าแดงและรีบวิ่งเข้ามาปิดคอมพิวเตอร์ด้วยความอาย
“โอ้ย น้องแก้ม! พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ พี่แค่เปิดไว้ผ่อนคลายน่ะ” พี่มอสพูดอย่างเขินๆ
แก้มไม่หยุดหัวเราะ “พี่มอส พี่จะเขินทำไมล่ะคะ มันเป็นเรื่องปกติออก!”
พี่มอสเกาหัวด้วยความลำบากใจ “พี่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แค่ว่าพี่เหนื่อยมากเลยอยากผ่อนคลายบ้าง”
แก้มยังหัวเราะต่อ แต่เธอก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง “พี่มอสไม่ต้องอายนะคะ หนูเข้าใจดี หนูแค่แซวเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย”
พี่มอสถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ดีนะที่น้องแก้มเข้าใจพี่ พี่ก็กลัวว่าน้องจะแปลกใจหรือจะมองพี่แปลกๆ ซะอีก”
หลังจากที่บรรยากาศผ่อนคลายลง ทั้งคู่ก็เริ่มพูดคุยกันอย่างสบายใจ พี่มอสยอมเปิดใจเล่าให้แก้มฟังว่า งานขับรถบัสนั้นหนักหนาและทำให้เขาเหนื่อยล้ามากๆ แต่เขาก็ไม่อยากบ่นหรือให้ใครรู้ว่าเขาเหนื่อยเพราะกลัวว่าจะดูอ่อนแอ
“พี่ไม่เคยบอกใครหรอก แต่การขับรถบัสมันทำให้พี่ล้าสุดๆ ทั้งกายและใจเลย บางครั้งพี่ก็ต้องหาวิธีผ่อนคลายบ้าง ไม่งั้นพี่คงไม่ไหว” พี่มอสเล่าอย่างจริงจัง
แก้มฟังอย่างเข้าใจและพูดปลอบใจ “พี่มอสไม่ต้องห่วงนะคะ หนูเห็นพี่ทำงานหนักมาตลอด หนูเองก็รู้สึกว่าพี่เป็นคนที่มีความรับผิดชอบและขยันมาก หนูเชื่อว่าทุกคนในรถก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน”
พี่มอสยิ้ม “ขอบคุณน้องแก้มมากนะ พี่รู้สึกดีขึ้นมากเลยที่มีคนเข้าใจพี่แบบนี้”
แก้มยิ้มและพูดต่อ “พี่มอส จริงๆ แล้ว หนูก็แอบปลื้มพี่มานานแล้วล่ะค่ะ พี่เป็นคนที่น่ารักและใส่ใจคนอื่นมาก พี่ไม่ต้องอายเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรอกค่ะ”
พี่มอสตาโตขึ้น “น้องแก้มพูดจริงเหรอ?”
แก้มพยักหน้า “จริงค่ะ หนูชอบพี่ที่พี่เป็นพี่มอส ไม่ต้องทำตัวดีมากหรือเพอร์เฟกต์ หนูชอบพี่แบบนี้แหละ”
พี่มอสอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างโล่งใจ “พี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้องแก้มคิดแบบนี้ ขอบคุณนะที่บอกพี่”
จากนั้นบรรยากาศระหว่างพี่มอสและแก้มก็ดูผ่อนคลายและสนุกสนานมากขึ้น ทั้งคู่หัวเราะและแซวกันอย่างเป็นกันเอง พี่มอสไม่รู้สึกกดดันหรืออายอีกต่อไป ส่วนแก้มก็เริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เปลี่ยนไปจากเพื่อนร่วมงานธรรมดา กลายเป็นคนที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
หลังจากนั้น พี่มอสและแก้มก็ยังคงทำงานด้วยกันอย่างเต็มที่ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มแน่นแฟ้นขึ้นทุกวัน ทั้งคู่กลายเป็นคู่ที่ดูแลกันและกัน แก้มคอยช่วยเหลือพี่มอสในการทำงานและผ่อนคลาย ส่วนพี่มอสก็คอยดูแลแก้มและให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ
วันหนึ่ง พี่มอสตัดสินใจจะบอกความรู้สึกที่แท้จริงของเขาต่อแก้ม
“น้องแก้ม พี่อยากจะบอกอะไรบางอย่างกับเรา” พี่มอสพูดอย่างจริงจัง
“อะไรเหรอคะพี่มอส?” แก้มถามด้วยความสงสัย
“พี่ชอบน้องแก้มมากๆ นะ และพี่อยากให้เราลองคบกันจริงๆ ดูได้ไหม?” พี่มอสสารภาพด้วยความจริงใจ
แก้มยิ้มและพูดด้วยความเขินอาย “พี่มอส หนูก็ชอบพี่เหมือนกันค่ะ เราลองคบกันดูนะคะ”
ทั้งคู่ยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักที่เริ่มต้นจากการทำงานหนักและการเปิดใจต่อกัน ความรักที่มีทั้งความสนุกสนานและความเข้าใจในตัวตนของกันและกัน
และนี่คือเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในรถบัสคันหนึ่ง ความรักที่เริ่มจากความเป็นเพื่อนร่วมงานและเติบโตเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมีความสุขที่สุด
ใส่ความเห็น