ต้น: โอเค ลิลลี่ เดี๋ยวเราจะเริ่มถ่ายเซ็ตนี้กันตรงแสงธรรมชาติที่มุมนี้นะ แสงสวยมากเลย
ลิลลี่ นางแบบสาวที่มากด้วยเสน่ห์ กำลังยืนอยู่ในชุดแฟชั่นหรูหราท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของเมืองใหญ่ ต้น ช่างภาพมืออาชีพที่เพิ่งได้รับงานถ่ายภาพแฟชั่นครั้งใหญ่ในเมืองนี้ เขาถูกมอบหมายให้ถ่ายภาพของลิลลี่เพื่อนำเสนอความสวยงามของแฟชั่นสมัยใหม่
ทั้งสองคนเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ต้นเป็นคนเงียบๆ แต่มีความตั้งใจสูงในงาน ลิลลี่เป็นคนที่เปิดเผยและชอบความท้าทาย การถ่ายภาพเริ่มต้นไปอย่างราบรื่น แต่ก็มีการแซวเล่นกันเป็นบางครั้งทำให้บรรยากาศเป็นกันเองและสนุกสนาน
ลิลลี่: โอ๊ย! แสงตอนนี้แรงมากเลยค่ะ ต้น ช่วยบอกหน่อยว่าฉันต้องทำหน้าแบบไหนให้ดูไม่ขมวดคิ้ว
ต้น: งั้นทำท่าตามใจเธอเลย เดี๋ยวฉันจะช่วยดูแสงให้เอง รับรองว่าหน้าสวยทุกมุมแน่นอน
ลิลลี่หัวเราะเบาๆ พร้อมกับเริ่มโพสท่าอย่างมั่นใจ ต้นยืนถือกล้องเตรียมพร้อม เขากดชัตเตอร์รัวๆ อย่างคล่องแคล่ว แต่ในใจเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกออกไปจากเดิมเมื่อได้ทำงานร่วมกับลิลลี่ ทุกครั้งที่เขายกกล้องขึ้นมาถ่าย เธอเหมือนจะสะกดทุกสายตาด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่เป็นธรรมชาติ
ลิลลี่: ต้น คุณเก่งจัง ฉันไม่เคยเห็นช่างภาพที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขนาดนี้มาก่อนเลย
ต้นยิ้มเขินๆ เขาไม่ค่อยชินกับคำชมตรงๆ แบบนี้ แต่ก็ยอมรับว่าเขาก็รู้สึกดีที่ได้ยิน
ต้น: ขอบคุณครับ แต่จริงๆ ฉันแค่ถ่ายภาพตามความงามของแบบนะ เธอน่ะแหละที่ทำให้ภาพออกมาดูดี
ทั้งสองหัวเราะด้วยกันเบาๆ ความสนิทสนมเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขาอย่างไม่รู้ตัว การถ่ายภาพดำเนินไปเรื่อยๆ ต้นเริ่มรู้สึกถึงความรู้สึกที่เกินกว่าการเป็นแค่ช่างภาพและนางแบบ เขาไม่เคยทำงานกับใครแล้วรู้สึกผ่อนคลายขนาดนี้มาก่อน
ลิลลี่: คุณชอบถ่ายภาพมากเลยใช่ไหม? เห็นคุณดูจริงจังกับงานมาก แต่ก็ยังทำให้ฉันรู้สึกสนุกได้ด้วย
ต้น: ใช่ครับ ผมชอบมาก การถ่ายภาพมันเหมือนกับการจับช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดไว้ เราได้เก็บความทรงจำและความรู้สึกต่างๆ เอาไว้ในภาพ แต่ผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาทำงานร่วมกับนางแบบที่เก่งและเป็นกันเองขนาดนี้
ลิลลี่หัวเราะเบาๆ อีกครั้ง เธอรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดนั้น ต้นไม่ได้แค่เป็นช่างภาพที่ทำงานดี แต่เขายังเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเป็นตัวของตัวเองได้ในระหว่างการทำงาน
ในช่วงบ่ายของวัน การถ่ายภาพใกล้จะเสร็จสิ้น ต้นและลิลลี่ได้พักผ่อนกันที่มุมนึงของสตูดิโอ พวกเขาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันมากขึ้น
ลิลลี่: ต้น แล้วงานถ่ายภาพแฟชั่นนี่ถือเป็นความฝันของคุณหรือเปล่า?
ต้น: ถามยากจัง แต่ก็ใช่นะ ผมชอบการถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก มันเป็นการสร้างสรรค์ศิลปะในแบบของผม แต่ถ้าจะพูดถึงความฝันจริงๆ ผมอยากใช้ภาพถ่ายสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นมากกว่าครับ
ลิลลี่: ว้าว น่าสนใจจังค่ะ ฉันชอบที่คุณมองภาพถ่ายเป็นมากกว่างาน มันทำให้ฉันคิดว่าเราทำสิ่งที่มีความหมายจริงๆ
ต้นพยักหน้า เขารู้สึกดีที่ได้แชร์ความคิดของเขากับลิลลี่ และในขณะเดียวกัน เขาก็เริ่มมองลิลลี่ในมุมที่แตกต่างไป เธอไม่ใช่แค่นางแบบที่สวยงาม แต่เธอยังมีความลึกซึ้งในการมองโลก ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงความรู้สึกที่เติบโตขึ้นในใจ
ลิลลี่: เอ่อ ต้น… แล้วตอนนี้คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ? ดูเงียบๆ ไปเลย
ต้น: เอ่อ… ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่กำลังคิดว่า… การทำงานกับคุณวันนี้มันสนุกมากเลยนะ ผมไม่เคยมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและสนุกสนานขนาดนี้ในการทำงานเลย
ลิลลี่หน้าแดงเล็กน้อยกับคำพูดนั้น เธอรู้สึกเช่นกันว่าการทำงานกับต้นไม่เหมือนกับช่างภาพคนอื่นๆ เขาทำให้เธอรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และการถ่ายภาพก็เป็นเรื่องที่สนุกและไม่กดดัน
ลิลลี่: ขอบคุณนะคะ ต้น ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน การทำงานกับคุณมันทำให้ฉันสนุกมาก และฉันก็คิดว่า… เราน่าจะทำงานร่วมกันอีกนะคะ
ต้น: ผมก็หวังแบบนั้นเหมือนกันครับ
ทั้งสองคนมองตากันและหัวเราะเบาๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาในวันนี้ไม่ใช่แค่การทำงานเพื่อจบงานแฟชั่น แต่เป็นการเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าที่พวกเขาคิด
หลังจากวันนั้น การถ่ายภาพแฟชั่นครั้งนี้ก็ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของภาพถ่ายที่งดงามเท่านั้น แต่มันยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่น่าจดจำระหว่างช่างภาพที่ต้องการแรงบันดาลใจและนางแบบที่เปิดใจและยิ้มให้กับโลก
ความรักที่เบ่งบานผ่านแฟลชกล้องและช่วงเวลาที่ถูกเก็บบันทึกไว้ในภาพถ่ายทำให้ทั้งสองรู้ว่า บางทีแรงบันดาลใจที่แท้จริงนั้นอาจจะไม่ได้มาจากภาพหรือเทคนิค แต่มาจากการที่พวกเขาได้มาพบเจอกัน