โจ้: นี่น้ำ วันนี้มีเมนูใหม่อะไรแนะนำไหม?
น้ำ พนักงานร้านกาแฟสาวยิ้มกว้าง พร้อมกับเสนอเมนูโปรดของโจ้ ลูกค้าประจำที่มักจะมานั่งจิบกาแฟในร้านทุกเช้า น้ำเป็นคนที่มีความอบอุ่นและเป็นมิตร ลูกค้าทุกคนในร้านต่างก็ชอบเธอเพราะความสดใสและอารมณ์ขันของเธอ และโจ้เองก็ไม่พลาดที่จะมานั่งพูดคุยกับน้ำทุกครั้งที่เขาแวะเข้าร้าน
น้ำ: โอ้โห พี่โจ้ถามแบบนี้ทุกวันเลยนะคะ! วันนี้เรามีลาเต้มะพร้าวน้ำหอมค่ะ จะลองไหม?
โจ้หัวเราะเบาๆ เขาสั่งเมนูเดิมทุกครั้ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจกับเมนูใหม่ที่น้ำแนะนำบ่อยๆ
โจ้: เอาละ งั้นลองตามที่น้ำแนะนำแล้วกัน
น้ำเตรียมลาเต้มะพร้าวน้ำหอมให้โจ้อย่างคล่องแคล่ว ขณะที่โจ้นั่งลงที่มุมโปรดของเขา มุมที่ติดหน้าต่างและมีแสงแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามา เมื่อกาแฟเสร็จ น้ำก็นำมาวางที่โต๊ะพร้อมรอยยิ้ม
น้ำ: ลองดูนะคะ ถ้าไม่อร่อยน้ำจะทำให้ใหม่เลย
โจ้: อร่อยแน่นอน! น้ำชงกาแฟไม่เคยพลาดเลย
ทั้งสองหัวเราะอย่างเบาๆ ขณะที่โจ้เริ่มจิบกาแฟของเขา เขารู้สึกว่าการมาที่ร้านนี้ทุกเช้าไม่ใช่แค่เพราะกาแฟดีเท่านั้น แต่มันเป็นเพราะการได้คุยกับน้ำ สาวบาริสต้าที่ทำให้วันของเขาสดใสขึ้นทุกครั้ง
โจ้: น้ำรู้ไหม ฉันเป็นศิลปินนะ แต่ตอนนี้กำลังมองหาแรงบันดาลใจอยู่ ไม่รู้ทำไมถึงตื้อคิดงานไม่ออกเลย
น้ำ: โห พี่โจ้เป็นศิลปินด้วยเหรอคะ! งั้นน้ำว่าพี่มาที่ร้านนี้น่าจะถูกแล้วค่ะ บรรยากาศดี เผื่อได้แรงบันดาลใจจากกาแฟของน้ำ (หัวเราะ)
โจ้หัวเราะและพยักหน้า
โจ้: ใช่แล้วสิ อาจจะต้องมาทุกวันเผื่อจะได้ไอเดียดีๆ สักวัน
หลังจากการพูดคุยสนุกสนาน น้ำก็สนใจในเรื่องศิลปะที่โจ้กำลังทำ เธออยากรู้ว่าโจ้ทำงานแนวไหนและเขาหาแรงบันดาลใจจากอะไรบ้าง เธอจึงถามต่อ
น้ำ: แล้วพี่โจ้ทำงานแนวไหนเหรอคะ น้ำอยากรู้
โจ้: ส่วนใหญ่เป็นงานวาดภาพน่ะ แต่ช่วงนี้มันตันๆ ไอเดียไม่ค่อยออก ไม่รู้จะไปหาความคิดจากไหน
น้ำรู้สึกสนใจและอยากช่วยโจ้ เธอคิดว่าน่าจะมีหนังสือหรือเว็บไซต์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้โจ้ได้บ้าง
น้ำ: งั้นพี่โจ้ลองหาหนังสือศิลปะหรืออะไรที่พอจะช่วยได้นะคะ น้ำว่าในเน็ตต้องมีแน่นอน
โจ้: เออจริงด้วย เดี๋ยวฉันลองหาดู
โจ้เปิดมือถือและค้นหาหนังสือศิลปะที่น้ำพูดถึง แต่ในขณะที่เขากำลังหาข้อมูลอยู่นั้น เขาเผลอคลิกไปยังลิงก์ที่ไม่น่าคลิกเข้าอย่างเต็มที่ หน้าเว็บที่ไม่เหมาะสมเด้งขึ้นมาทันที ทั้งโจ้และน้ำต่างก็อึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะหัวเราะกันอย่างกลั้นไม่อยู่
น้ำ: พี่โจ้! นี่พี่หาอะไรน่ะเนี่ย (หัวเราะ)
โจ้: โอ๊ย ขอโทษทีน้ำ! ไม่ได้ตั้งใจเลย! (หัวเราะ) ฉันพยายามหาหนังสือจริงๆ นะ!
ทั้งสองต่างหัวเราะจนเกือบจุกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โจ้รู้สึกอายเล็กน้อย แต่น้ำก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
น้ำ: ไม่เป็นไรค่ะพี่โจ้ เดี๋ยวน้ำช่วยหาลิงก์ให้นะ คราวหน้าพี่ต้องระวังหน่อยแล้วนะคะ ไม่งั้นคนอื่นจะคิดว่าพี่เป็นพวกดูเว็บแปลกๆ นะ (หัวเราะ)
โจ้: จริงๆ แล้วฉันตั้งใจหาหนังสือนะ แต่เผลอไปเจออะไรแบบนี้ได้ไงก็ไม่รู้!
ทั้งสองหัวเราะร่วมกันอย่างสนุกสนาน ความอายที่เคยมีอยู่ในตอนแรกกลับกลายเป็นความขบขันและทำให้บรรยากาศในร้านดูผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
หลังจากเหตุการณ์ตลกๆ นั้น โจ้รู้สึกว่าการได้มานั่งจิบกาแฟและคุยกับน้ำทุกเช้าไม่ใช่แค่การมาผ่อนคลายตัวเองจากงานศิลปะที่เขาตันๆ แต่มันกลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากขึ้นทุกครั้ง เขารู้สึกว่าน้ำเป็นมากกว่าแค่พนักงานร้านกาแฟทั่วไป
โจ้: ขอบคุณนะน้ำ ฉันคิดว่าฉันได้แรงบันดาลใจจากเธอแล้วล่ะ ไม่ใช่จากหนังสือศิลปะหรอก
น้ำ: (ยิ้ม) แหม พี่โจ้นี่พูดเก่งเหมือนกันนะคะ น้ำดีใจที่พี่มีความสุขที่มาที่นี่
วันเวลาผ่านไป โจ้ยังคงมาเยือนร้านกาแฟทุกเช้า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับน้ำก็เริ่มลึกซึ้งขึ้น ทุกครั้งที่ได้คุยกันเรื่องศิลปะหรือเรื่องทั่วไป มันทำให้ทั้งสองคนรู้สึกใกล้ชิดและสนิทสนมกันมากขึ้น โจ้เริ่มรู้สึกว่าน้ำไม่ใช่แค่คนที่ทำให้เขาสบายใจ แต่เธอยังเป็นแรงบันดาลใจที่แท้จริงของเขา
โจ้: น้ำ รู้ไหม ฉันคิดว่าฉันจะเขียนภาพใหม่แล้วล่ะ แต่คราวนี้มันไม่ใช่แค่ภาพธรรมดาๆ นะ มันคือภาพที่ฉันได้แรงบันดาลใจจากเธอ
น้ำ: โอ้โห! พี่โจ้นี่จริงจังนะคะ น้ำรอดูเลยค่ะ จะเป็นยังไง
ทั้งสองหัวเราะเบาๆ ด้วยความสนิทสนมที่มากขึ้นทุกวัน ความรู้สึกของทั้งคู่เริ่มเบ่งบานเหมือนกาแฟที่ค่อยๆ ดึงรสชาติออกมาอย่างลงตัว ความรักของพวกเขาไม่ใช่แค่การพบกันระหว่างลูกค้ากับบาริสต้า แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาผ่านเสียงหัวเราะ ความอายเล็กๆ และการสนับสนุนกันและกัน
ทุกครั้งที่โจ้มาที่ร้านกาแฟ เขารู้ว่าไม่ใช่แค่การมาหากาแฟที่อร่อยที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นการมาพบกับคนที่ทำให้เขายิ้มและมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย
ใส่ความเห็น